เทคโนโลยี ความปลอดภัย
ที่พวกเขาต้องเผชิญตลอดกับกระแทกและการสั่นสะเทือนจากถนนเป็นอย่างมาก
เช่นเดียวกับ ความร้อนที่สูง ยางรถยนต์มีความเสี่ยงที่จะแบนตลอดเวลา เทคโนโลยีความปลอดภัยวันนี้ที่ถูกประยุกต์ใช้กับยาง เน้นการลดโอกาสที่จะเกิดการแบนของยาง มากที่สุด
เทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ เทคโนโลยียาง Run-Flat ในความเป็นจริง ความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยี Run-Flat เรียกได้ว่าเกณฑ์ที่สำคัญ ในการใช้ตัดสินระดับความล้ำหน้าของเทคโนโลยีผู้ผลิตยางทั่วโลก ยาง Kumho ผลิตยาง run – flat ในระดับ mass นับตั้งแต่ 2003 นั่นคือยาง Series XRP นั่นเอง
คำตอบคือ ยาง Run Flat
ยาง Run Flat เป็นยางที่สามารถขับเคลื่อนมากกว่า 80km ที่ความเร็วมากกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหลังจากที่ยางแบน เพราะ sidewalls ของยางจะเสริมความแข็งแรงสูง, เนื้อยางที่สร้างความร้อนต่ำ, ยางและล้อจะไม่แยกหลุดจากกัน แม้ยางแบนไปในทันที ความแข็งแรงของแก้มสามารถรองรับน้ำหนักของรถ ยังทำให้รถวิ่งต่อไปได้ ดังนั้นยาง Run Flat ใช้เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยที่สำคัญมากสำหรับนักขับรถในปัจจุบัน การที่รถสามารถวิ่ง ได้ด้วยยาง Run Flat หมายความว่าเราไม่ต้องคอยเก็บ ยางอะไหล่ไว้ในรถ ทำให้นน.บรรทุกสำหรับรถยนต์ลดลง นำไปสู่การประหยัดน้ำมัน และประโยชน์เพิ่มเติม อาทิ ยาง Run Flat ยังสามารถป้องกันผู้ขับขี่ จากอุบัติเหตุการเปลี่ยนยางในภูมิอากาศไม่ดี หรือเหยื่อของอาชญากรรมเมื่อยางแบนในพื้นที่อันตราย
ยาง Kumho เริ่มพัฒนาเยาง Run Flat สำเร็จในปี 1999 เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2003 มีเพียงห้าผู้ผลิตยางในโลกที่สามารถผลิตยาง
เทคโนโลยี Run Flat ยาง Kumho เป็นผู้นำในกลุ่มยาง Run Flat ซึ่งตลาดในกลุ่มประเทศยุโรป รู้จักกันดี
ยาง SSR VS ยาง SR
ยาง Run flat มีสองประเภทด้วยกัน ประเภทแรกคือ Self Support Reinforce(SSR) ด้วยเนื้อยางเสริมความแข็งแรงบริเวณแก้มยาง ทำยังสามารถขับขี่ต่อไปได้แม้สูญเสียแรงดันอากาศในยาง อีกประเภทคือ Support Ring (SR) ที่มีแหวนใส่ไว้ในยางเพื่อให้
สามารถกลิ้งต่อ ด้วยการสนับสนุนของแหวนโดยไม่มีแรงดันอากาศ
ยางประเภท SSR ค่อนข้างที่จะผลิตยาก และระดับชั้นของเนื้อยางทำให้ลดระดับการขับขี่ที่นุ่มสบาย แต่อย่างไรก็ดี ยาง SSR ก็มีข้อดีที่ นน.เบา ขนถ่ายง่ายสะดวก ติดตั้งง่าย อีกทั้ง เนื้อยางเสริมความแข็งแรงก็ไม่ได้กินพื้นที่ภายในยาง ดังนั้นจึงเหมาะที่จะผลิตยางซีรี่ส์ต่ำๆ
ในขณะที่ยาง Runflat ประเภท SR ให้การขับขี่ที่นุ่มสบายเหมือนกับยางธรรมดาทั่วไป แต่เป็นการยากที่จะหาร้านที่สามารถเซอร์วิตได้ เพราะร้านค้าที่มีอุปกรณ์ในการถอดติดตั้งยางชนิดนี้ ยังไม่แพร่หลายนัก
Kumho Tires ยาง RunFlat? Top 5 ของโลก!!!
หลังจากที่ยางรถยนต์สูญเสียแรงดันอากาศ หรือแบน ยางทั่วๆไปจะมีแรงกดดันอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณแก้มยางเพราะว่ายาง ยืดและหดตัวมากเกินไป และจะไม่สามารถพยุงตัวรถได้นานนัก เมื่อแรงกดดันสะสมมากเกินไปยางก็จะระเบิดเพราะความร้อน
แก้มยางของยาง XRP ถูกเสริมความแข็งแรงด้วย การผสมผสาน ของเนื้อยาง ที่มีเสถียรภาพทั้งความยืดหยุ่นและอุณหภูมิในระดับโมเลกุลทีเดียว
ส่งผลให้ได้สมรรถนะการขับขี่ที่มีเสถียรภาพ, การเปลี่ยนรูปพลังงานที่น้อยที่สุด และเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความร้อน ภายใต้สภาวะที่ไม่มีแรงดันอากาศในยางเลย
ยางยิ่งแข็งก็จะยิ่งวิ่งได้ระยะมากขึ้น แต่ถ้ายางยิ่งแข็งก็จะทำให้ความสบายในการขับขี่ลดลง ในขณะที่ยางที่สามารถยืดและหดได้มากกว่าจะได้การขับขี่ที่สบายกว่า แต่การยืดและหดของยางที่ไม่มีแรงดันอากาศภายในเลย จะสร้างความร้อนที่สูงมาก ถ้าให้มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะวิ่งไปได้ตลอดโดยไม่เติมลมเลย องค์ประกอบของเนื้อยางเสริมความแข็งแรงใน XRP ของ kumho สามารถแก้ไขจุดอ่อนนี้ ยาง XRP ใช้สารประกอบ ที่รับประกัน การขับขี่ที่นุ่มสบาย และ การใช้งานยางที่ยาวนาน
สารประกอบของดอกยางมีความสำคัญมาก เป็นตัวบ่งบอกถึงประสิทธิภาพทั้งหมดของตัวยางรถ ยางคัมโฮยังคงใช้สารประกอบซิลิก้า ที่สมรรถนะสูงมากและการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดี บนพื้นถนนเปียก จุดแข็งนี้ทำให้คัมโฮเติบโตและนำหน้าคู่แข่งในตลาดโลก
สถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้ผลิตยางชั้นนำของโลกได้ให้ความสำคัญกับตลาด ยาง Run Flat (80% ในยุโรป, 20% ในสหรัฐอเมริกา) และมีการคาดคะเนว่ายาง Run flat จะถูกใช้ในตลาด OEM ถึง 30% ในปี 2010 ส่งผลให้ ผู้ผลิตยางชั้นนำต้องเน้นพัฒนายาง Run flat ให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เบาลง และ เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงโดยลดความต้านทานในการหมุนของยาง หนึ่งในความท้าทายที่สุดคือ เรื่องของน้ำหนักยาง ยาง Run flat โดยเฉลี่ยแล้วจะหนักกว่ายางทั่วไป 15% แต่ยางคัมโฮ XRP ได้เปรียบคู่แข่งขันในเรื่องนี้ เพราะ นน.ยาง XRP เบากว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ
ยางคัมโฮ XRP เป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ทางคัมโฮภาคภูมิใจ ในการเผชิญการความท้าทายด้านเทคโนโลยีและกลายเป็น หนึ่งในผู้ผลิตยางแถวหน้าของโลก
การทดสอบที่ 1
ตามรูป ยางได้รับความเสียหายอย่างมาก จากการวิ่งผ่านของมีคมขนาดใหญ่ แต่รูปทรงของ ยาง Run Flat ก็ไม่เปลี่ยนแปลง
การทดสอบที่ 2
เจาะยางให้มีขนาดรูเท่ากับ นิ้วของคน ยาง Run Flat ก็ยังวิ่งต่อไปได้ ในระยะทางที่แน่นอน ปราศจาก ปัญหาในการขับขี่ ซึ่งยางธรรมดาทั่วไป ไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
การทดสอบที่ 3 – การสูญเสียแรงดันอย่างฉับพลัน
ใช้อุปกรณ์ (Tire rupture) ทำให้ยางสูญเสียแรงดันทั้งหมดในทันที ทดสอบเพื่อจะดูว่า ตัวยางกับล้อ จะแยกออกจากกันหรือไม่ และ ผู้ขับยังสามารถ ควบคุมรถหลบสิ่งกีดขวาง ในขณะเกิดความเสียหายอย่างฉับพลันนี้ ได้รึไม่
การทดสอบให้รถวิ่งที่ความเร็ว 80 กม./ชม. และสูญเสียแรงดันอย่างฉับพลัน ในสถานการณ์นี้ ยางรถธรรมดาจะไม่สามารถควบคุมทิศทาง และชนสิ่งกีดขวาง เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแน่นอน แต่ผลการทดสอบด้วยยาง Run Flat ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถ หลบหลีกสิ่งกีดขวาง ไม่มีแม้รอยถาก แม้จะสูญเสียอากาศในยางจนหมดสิ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น